ขอนอบน้อมแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น |
ชีวิตในวันหนึ่ง ๆ หนีไม่พ้นผลของกรรมซึ่งได้กระทำแล้ว จึงทำให้มีการเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น การลิ้มรส การรู้สิ่งที่กระทบสัมผัสต่าง ๆ ทางกาย ไม่สามารถรู้ได้เลยว่า ผลของกรรมใดจะส่งผลเมื่อไรขณะใด......กุศลกรรมและอกุศลกรรมที่ได้กระทำไว้แล้วนั้น เป็นปัจจัยให้มีการเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น การลิ้มรส การรู้กระทบสัมผัสทางกาย
กุศลกรรมและอกุศลกรรมที่ได้กระทำไว้แล้ว ไม่หายไปไหน เมื่อมีเหตุมีปัจจัยที่จะให้ผลเกิด ผลของกรรมนั้นก็จะเกิดขึ้น โดยไม่มีผู้ใดหลีกเลี่ยงหรือยับยั้งได้เลย ตลอดจนกระทั่งถึงกาลที่จะปรินิพพาน เพราะเหตุว่า แม้แต่บุคคลที่ได้สะสมบุญกุศล จนสามารถที่จะบรรลุมรรคผลถึงขั้นเป็นพระอรหันต์ ก็ยังไม่สามารถที่จะหลีกพ้นจากอดีตอกุศลกรรม ที่ได้กระทำไว้แล้ว
จะเห็นได้ว่าชีวิตของแต่ละคน บางครั้งก็อาจจะมีความทุกข์ ซึ่งเกิดจากผลของอกุศลกรรม เช่น ได้เห็นสิ่งที่ไม่ดี ได้ยินเสียงที่ไม่ไพเราะ ได้กลิ่นที่ไม่ดี ได้ลิ้มรสที่ไม่อร่อย ได้กระทบสัมผัสต่าง ๆ ที่ไม่สบายทางกาย......ดังนั้น ก็ขอให้ทราบว่า ต้องมีเหตุที่ได้กระทำไว้แล้ว ตราบใดที่ยังวนเวียนอยู่ในสังสารวัฏ อกุศลกรรมที่ได้กระทำไว้แล้ว ก็ย่อมจะเป็นเหตุปัจจัยให้อกุศลวิบากจิตเกิดขึ้นได้ ตลอดไปจนกว่าจะถึงกาลที่จะปรินิพพาน โดยไม่มีผู้ใดสามารถที่จะยับยั้งได้
ขออุทิศส่วนกุศลให้แก่สรรพสัตว์
............................................