Translate

วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2555

หลีกออกด้วยใจ



 ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

การหลีกออกในที่นี้หมายถึงการหลีกออกจากการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นเรา  ไม่ได้หมายถึงการหลีกออกหมู่คน  ปัญญาเท่านั้นที่จะค่อย ๆ หลีกออกจากความเห็นผิด หลีกออกจากความติดข้อง  ถ้ายังหลีกออกจากความเห็นผิดไม่ได้ก็จะหลีกออกจากคนโน้นคนนนี้ไม่ได้เลย

การหลีกออกจากจิตที่เคยเข้าใจว่าเป็นเรา ยังไม่มีความเข้าใจธรรม  ขณะนั้นไม่ต้องไปหลีกไม่ต้องมีตัวตนไปไหนหรือทำอะไรทั้งสิ้น  แต่ปัญญานั่นเองที่จะค่อย ๆ หลีกออกจากความไม่รู้และความติดข้อง  อย่างอื่นไม่สามารถที่จะหลีกออกจากความไม่รู้และความติดข้องได้เลย  พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับ ณ พระวิหารเชตวันไม่ได้ประทับอยู่องค์เดียว  พระองค์ไม่ได้หลีกออกไปไหน แต่หลีกออกด้วยใจ

ถ้าหลีกออกด้วยใจ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็จะไม่มีความติดข้อง  แต่ถ้ายังติดข้องอยู่  ก็ยังไม่เป็นการหลีกออกด้วยใจ  ไม่ได้หลีกออกจากผู้อื่น  แต่เป็นการหลีกออกจากความเห็นผิด หลีกออกจากการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นเรา  ถ้ายังมีเราก็มีเขา แล้วจะหลีกออกได้อย่างไร  แต่ถ้าหลีกออกจากความยึดถือทั้งหมดที่เป็นเรา ก็จะสามารถรู้ได้ว่า ไม่ว่าใคร ๆ ทั้งนั้น ก็คือธาตุ ดิน น้ำ ไฟ ลม มีธาตุรู้ และมีสิ่งที่สามารถกระทบจักขุประสาท ทำให้เกิดรูปร่างสัณฐาน  เวลาที่เห็น  เวลาที่ได้ยิน  เวลาที่พูด ก็คือความคิดของจิตที่มีอยู่ที่มหาภูตรูป และสื่งที่ปรากฏเป็นรูปร่างสัณฐานต่าง ๆ  ที่จำไว้ว่าเป็นคนนั้นคนนี้  แต่ความจริงแล้วคือ แต่ละหนึ่งธาตุซึ่งเกิดดับอยู่ตลอดเวลา แล้วแต่ว่าจะปรากฏทางไหน.


                                                   ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่าน

                                                     ขออุทศส่วนกุศลให้แก่สรรพสัตว์