Translate

วันอังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

กามาวจรจิต



 ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

คำว่า  กามาวจร  เป็นคำรวมของคำว่า  กามะ กับ อะวะจร ภาษาไทยใชคำว่า กาม  หมายถึง สภาพธรรมที่ใคร่หรือพอใจ  ขณะใดที่มีความพอใจหรือความใคร่เกิดขึ้น  ขณะนั้นเป็นกามธาตุ เป็นสภาพธรรมชนิดหนึ่ง

กามาวจรจิต มี ๕๔ ดวง  คือ  อกุศลจิต ๑๒ ดวง  อเหตุกจิต ๑๘ ดวง (จิตที่ไม่ประกอบด้วย โลภเจตสิก  โทสเจตสิก  โมหเจตสิก  อโลภเจตสิก  อโทสเจตสิก  อโมหเจตสิก) และกามาโสภณจิต ๒๔ ดวง  กามาวจรจิตเป็นจิตขั้นต่ำที่สุด  ทุกท่านไม่พ้นไปจากกามาวจรจิต  และใช่ว่าทุกท่านจะมีกามาวจรจิตครบ ๕๔ ดวง   แม้ว่าจิตของแต่ละท่านในภูมินี้ จะเป็นจิตขั้นกามหรือขั้นกามาวจรจิตก็ตาม

 คำว่า  "กาม"  มีความหมาย ๓ อย่าง คือ

 ๑. กิเลสกาม  ได้แก่  สภาพซึ่งพอใจ ยินดี ติดข้องหรือใคร่  ซึ่งได้แก่ โลภเจตสิก  เมื่อเกิดความยินดีพอใจแล้ว  ก็ต้องมีสิ่งซึ่งเป็นที่พอใจยินดีของโลภะ

๒.  วัตถุกาม  หมายถึง สิ่งซึ่งเป็นที่พอใจยินดีของโลภะ  แต่ไม่ใช่ตัวโลภะ  สิ่งที่โลภะพอใจเป็น "วัตถุกาม"  เพราะเหตุว่า เป็นที่ตั้งแห่งความยินดีพอใจ  เพราะฉะนั้น จึงมีกิเลสกามและวัตถุกาม

สิ่งที่เป็นที่ยินดีพอใจของโลภะไม่จำกัดเลย  นอกจากนิพพานอย่างเดียว ทั้งหมดเป็นวัตถุกาม เป็นที่ยินดีพอใจของโลภะได้ทั้งสิ้น  พอใจในรูป  พอใจในเสียง  พอใจในกลิ่น  พอใจในรส  พอใจในโผฎฐัพพะ พอใจในขันธ์  พอใจในธาตุ  พอใจในอายตนะ  พอใจในกุศลขั้นต่าง ๆ  พอใจในภพภูมิต่าง ๆ  พอใจในมนุษย์ภูมิ  พอใจในเทวภูมิ  พอใจในพรหมภูมิหรือพอใจในอรูปภูมิ  ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นที่ตั้งแห่งความยินดีพอใจ เป็นวัตถุกามได้ทั้งหมด  เพราะฉะนั้น ในสังสารวัฏฏ์ไม่ว่าจะในภพใดภูมิใดทั้งสิ้น ภพภูมิเหล่านั้นย่อมเป็นที่ตั้งแห่งความยินดีพอใจได้  เว้นนิพพานอย่างเดียว

 ๓. กามอารมณ์  ซึ่งหมายถึง  รูป  เสียง  กลิ่น  รส  โผฐัพพะ ซึ่งเป็นกามธาตุ  เพราะฉะนั้น จิตซึ่งเป็นกามาวจรจิตก็เพราะเหตุว่า จิตขั้นนี้เป็นธาตุกาม ซึ่งไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล แต่ว่าเป็นธรรมแต่ละชนิดแต่ประเภท  ซึ่งมีสภาพของตน ๆ  เพราะฉะนั้น  กามาวจรจิต เป็นกามธาตุซึ่งยังไม่สามารถที่จะขึ้นเป็นรูปธาตุ  ซึ่งเป็นจิตที่มั่นคง ซึ่งมีรูปเป็นอารมณ์  และไม่ใช่อรูปธาตุ คือไม่ใช่อรูปาวจรจิต ซึ่งเป็นจิตที่มีความสงบมั่นคงโดยไม่มีรูปเป็นอารมณ์  และไม่ใช่เป็นจิตโลกุตตรจิต

เพราะฉะนั้น จิต ๕๔  ดวง โดยสภาพความเป็นธาตุแล้ว เป็นกามธาตุ  ไม่พ้นไปจากรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ  ถึงแม้ว่าจะเกิดในภูมิอื่นก็ยังมีกามาวจรจิตบางประเภทเกิดได้  เช่น ในรูปพรหมภูมิและอรูปพรหมภูมิ  ถึงแม้ว่าจะอบรมจิตถึงขั้นสงบ  จะมีรูปหรือไม่มีรูปเป็นอารมณ์แล้ว  เกิดเป็นรูปพรหมบุคคลหรืออรูปพรหมบุคคลในพรหมภูมิ ก็ยังมีกามาวจรติบางประเภทเกิด  เพราะเหตุว่า ไม่ใช่รูปาวจรจิตหรืออรูปวจรจิต.


                   ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านและขออุทิศส่วนกุศลให้แก่สรรพสัตว์

                                                     ............................................