Translate

วันเสาร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2555

หนีไม่พ้นผลของกรรม


วันหนึ่ง ๆ หนีไม่พ้นเรื่องผลของกรรม  ไม่ว่าจะหลับหรือตื่นก็หนีไม่่พ้นเรื่องผลของกรรม.....ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา  เพราะฉะนั้นจะห้ามไม่ให้หลับ  ไม่ให้ตื่น ไม่ให้เห็น ไม่ให้ได้กลิ่น ไม่ให้ลิ้มรส ไม่ให้รู้กระทบสัมผัสไม่ได้เลย  เพราะเหตุว่าสภาพธรรมที่กล่าวมานี้ทั้งหมดเป็นวิบากจิตหรือผลของกรรม  

การหลับเป็นภวังค์  จิตที่ทำภวังคกิจเป็นวิบากจิต  เป็นผลของกรรม  มีกรรมเป็นปัจจัย เป็นเหตุทำให้ภวังคจิตเกิดขึ้น.....ภวังคจิต ทำกิจดำรงภพชาติในขณะที่ไม่เห็น ไม่ได้ยิน ไม่ได้กลิ่น ไม่ลิ้มรส ไม่รู้กระทบสัมผัส  บังคับบัญชาไม่ได้  บางครั้งอยากจะหลับ แต่ก็ไม่สามารถจะหลับได้ เพราะไม่มีเหตุปัจจัยที่จะทำให้ภวังคจิตเกิดขึ้นได้....

การตื่นก็เป็นผลของกรรม  การหลับหรือการนอนไม่หลับก็เป็นผลของกรรม  เมื่อไม่หลับก็ต้องเห็น จิตเห็นเป็นผลของกรรม  ต้องได้ยิน จิตได้ยินก็เป็นผลของกรรมและเวลาที่หลับแล้วจะไม่ตื่นก็ไม่ได้  ถ้าตื่นก็คือเห็น ซึ่งเป็นผลของกรรมเช่นกัน

บางครั้งการที่ไม่หลับ  ก็ไม่ใช่เพียงเป็นผลของกรรมเท่านั้น  แต่เป็นผลของการสะสมของอกุศลก็ได้  เพราะเหตุว่าจิตที่เป็นโลภะเกิดขึ้นนึกคิดเรื่องราวต่าง ๆ ทางใจ  ถึงแม้ว่าจะไม่เห็น ไม่ได้ยิน  ไม่ได้กลิ่น ไม่ได้ลิ้มรส ไม่ได้รู้สิ่งกระทบสัมผัสทางกาย  แต่ก็มีการนึกคิดเรื่องราวต่าง ๆ ทางใจ  ในขณะนั้นไม่ใช่ผลของกรรม แต่เป็นกิเลสที่ทำให้ไม่หลับ

เพราะฉะนั้น  เมื่อเข้าใจรู้ชัดในเรื่องของกรรมและผลของกรรมหรือวิบากจิตแล้ว  ก็จะเห็นได้ว่า  จะหลับหรือตื่นก็หนีไม่พ้นเรื่องผลของกรรม

                                                           

                                 ขออุทิศส่วนกุศลให้แก่สรรพสัตว์


                                       ........................................